แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 34
1
การเข้ารับการจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก และยังมีความปลอดภัยอีกด้วย เพราะการจัดฟันแบบใส ทันตแพทย์หรือสถานบริการจะต้องได้รับการรับรองจากทาง Invisalign ให้สามารถให้บริการด้านการจัดฟันแบบใสได้ ดังนั้น การจัดฟันแบบใสจึงได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่มีผลการรักษาที่แม่นยำ ปลอดภัย ทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีความมั่นใจว่า เขาจะได้รับการบริการที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล


ทั้งนี้ ระหว่างการรักษา หรือหลังจากการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเครื่องมือการจัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร การพูด การทำความสะอาดช่องปากและฟัน ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ เพียงแค่ถอดเครื่องมือการจัดฟันออก การที่สามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ เป็นจุดเด่นที่ทำให้หลายคนเลือกเข้ารับการจัดฟันแบบใส เพราะมีความสะดวกกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการจัดฟันแบบ หลายคนอาจจะมีความลังเลว่า การจัดฟันแบบใสนั้น เราจะต้องมีวิธีการปฏิบัติตัวอย่างไร จะต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันหรือไม่ หรืออย่างบางคนอาจจะมีพฤติกรรมที่ชอบสังสรรค์ ปาร์ตี้ อาจจะมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็อาจจะกังวลว่า ถ้าหากเราเข้ารับการจัดฟันแบบใสแล้ว สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่
 

วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงประเด็นดังกล่าว เพื่อให้หลายคนที่มีความสงสัยได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใส อย่างที่เราเคยบอกไปแล้วว่า การจัดฟันแบบใสนั้น สามารถทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันได้รับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของเครื่องมือการจัดฟัน เพราะการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการจัดฟันต้องถอดเครื่องมือการจัดฟันออกอยู่แล้ว ก่อนการรับประทานอาหาร ดังนั้น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้เข้ารับการจัดฟันก็ต้องถอดเครื่องมือออกเช่นเดียวกัน เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางประเภทมีสี อาจจะส่งผลทำให้เครื่องมือการจัดฟันมีสีที่เปลี่ยนไป


นอกจากนี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังมีส่วนผสมของน้ำตาล อาจจะเป็นการทำลายเครื่องมือการจัดฟันได้ แต่ถ้าหากเผลอดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะสวมใส่เครื่องมือการจัดฟัน ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องทำความสะอาดเครื่องมือการจัดฟันทันที เพื่อไม่ให้คราบต่างๆติดอยู่บนเครื่องมือจัดฟัน และไม่ให้เครื่องมือการจัดฟันมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ด้วย ดังนั้น ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ต้องถอดเครื่องมือการจัดฟันออก อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันอย่างน้อยวันละ 22 ชั่วโมง เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่ทันตแพทย์กำหนดไว้ และยังเป็นการทำให้เครื่องมือการจัดฟันทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ


หากสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านทันตกรรมอย่างครบวงจร โดยเฉพาะในเรื่องการจัดฟันแบบใส เพราะทางคลินิกได้รับการรับรองสูงสุดจากทาง Invisalign ให้สามารถให้บริการกับผู้ที่สนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใสได้ ตามมาตรฐานสากล ทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ ว่า ถ้าหากเข้ารับบริการจากทางคลินิก คุณจะมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ทางคลินิกยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจ โดยเริ่มต้นที่ 49,000 บาท จากราคาปกติ 69,000 บาท



ผู้ที่เข้ารับการจัดฟันใส ดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

2
เชื่อว่าหลายๆท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วถึงระยะเวลาในการจัดฟัน ว่าต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควร บางท่านอาจจะไม่สามารถทำการจัดฟันได้เนื่องจากว่าไม่มีเวลามากพอที่จะมาทำการจัดฟันตามขั้นตอนของทันตแพทย์ หรือผู้ที่ทำการจัดฟันไปแล้วมักจะมีคำถามแรกคล้ายๆกันนั่นก็คือ เมื่อไหร่จะเสร็จสิ้นการจัดฟัน ? เมื่อไหร่ฟันจะเข้าที่ ? ต้องจัดฟันไปอีกนานหรือไม่ ? ต้องขอบอกเลยว่าเป็นคำถามยอดนิยมมากๆ ที่ทันตแพทย์จะได้ยินจากผู้ป่วยที่เข้าทำการรักษา ซึ่งแท้จริงแล้วทุกอย่างมีขั้นมีตอน

ในวันนี้ทางด้าน Clinic จะขอมาตอบคำถามเพื่อให้ทุกท่านได้ทราบและเข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับการจัดฟัน รวมถึงการจัดฟันแบบเร่งด่วนมีหรือไม่ ต้องทำอย่างไรฟันจึงจะเข้าที่อย่างรวดเร็ว โดยมีรายละเอียดที่อยากให้ทราบดังต่อไปนี้

 

ระยะเวลาในการจัดฟัน ?

ต้องขอบอกเลยว่าศาสตร์การจัดฟันนั้นมีอายุมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งทำให้มีการเก็บข้อมูลทำการวิจัยมาอย่างยาวนานมากๆ หนึ่งในนั้นก็คือ ระยะเวลาที่แน่นอนของการจัดฟัน จนสรุปได้อย่างคร่าวๆว่า ต้องใช้ระยะเวลาการจัดฟันอยู่ที่ 2 – 3 ปี โดยประมาณ ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกท่านที่จัดฟันจะต้องใช้ระยะเวลาเท่านี้เสมอไป บางท่านอาจจะต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี ก็มี หรือบางท่านอาจจะใช้เวลาแค่ 2 ปี ก็เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งเรื่องของระยะเวลาในการจัดฟันนี้ก็จะขึ้นอยู่กับปัญหาฟันที่ทำการจัด อายุ ระดับการตอบสนองของร่างกาย ซึ่งแต่ละคนก็มีสิ่งเหล่านี้ไม่เท่ากัน แต่ความร่วมมือของผู้ทำการจัดฟันที่ให้กับทันตแพทย์ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ท่านจัดฟันได้รวมเร็วและมีประสิทธิภาพดีที่สุด

 

ระยะเวลาในการจัดฟัน ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ด้วย ?

ต้องขอบอกเลยว่า ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาก็ถือว่ามีผลต่อระยะเวลาในการจัดฟันเช่นกัน เนื่องจากว่าทันตแพทย์แต่ละท่านมีประสบการณ์ต่างกัน เรียนมาไม่เหมือนกัน มุมมองต่างกัน และเทคนิควิธีที่นำมาใช้ก็มีความต่างกัน และที่สำคัญมากๆอีกอย่างก็คือ ความละเอียดในการรักษาของทันตแพทย์แต่ละท่านไม่เท่ากัน เช่น ทันตแพทย์บางท่านงานต้องออกมาสมบูรณ์แบบ เลยมีความละเอียดมาก จึงต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาที่มากตามไปด้วย

 

วิธีการเร่งจัดฟันมีหรือไม่ ?

ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่ามีและไม่มี ซึ่งการจัดฟันแบบเร่งด่วนถือว่าเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญมากๆสำหรับทันตกรรมระดับโลกที่กำลังศึกษากันอยู่ และยังไม่สามารถทำออกมาเป็นชิ้นเป็นอันได้ชัดเจน เพราะหากว่าใครสามารถคิดค้น วิธีจัดฟันเพียง 3 เดือนได้ จะกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกแน่นอน

แต่ที่ผ่านมาก็ได้มีการวิจัยและประดิษฐ์คิดค้น วิธีการเร่งการจัดฟันออกมาเยอะแยะมากมาย ยกตัวอย่างเช่น แบร็กเก็ตพิเศษ แบร็กเก็ตแบบไม่มัดยาง รวมถึงแบร็กเก็ตรูปทรงต่างๆ มากมาย แถมยังมีเครื่องมือกระตุ้นกระดูกรอบๆฟัน จุดหมายเพื่อให้ฟันเคลื่อนที่เข้ารูปได้รวดเร็วขึ้นกว่าปกติที่ใช้กันอยู่ ซึ่งเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ได้มีการผลิตใช้จริงตั้งแต่ในสมัยอีกรวมถึงปัจจุบัน ซึ่งมีมากมายหลายยี่ห้อ หลายบริษัท

แต่อุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้ยังไม่มีการรองรับอย่างเป็นทางการด้านวิทยาศาสตร์ ว่าสามารถใช้ได้จริงหรือไม่

แต่ที่แน่ๆอุปกรณ์เหล่านี้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายเป็นวงกว้างในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งที่ยังไม่ได้มีการยืนยันแน่นอนว่าช่วยทำให้การจัดฟันรวมเร็วขึ้น

แต่สิ่งที่ทั้งโลกให้การยอมรับว่าการจัดฟันนั้นจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ การวินิจฉัยและวางแผนที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วย  รวมถึงความร่วมมือของผู้ที่ทำการจัดฟันมากน้อยเพียงใด หากทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด โอกาสผิดพลาดก็จะลดน้อยลง เพราะทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่ทันตแพทย์ต้องวางเอาไว้

ส่วนอุปกรณ์เสริมพิเศษเหล่านั้น แท้ที่จริงแล้วฟันของเราไม่เคยเลือกอุปกรณ์ แต่ผู้ที่นำอุปกรณ์มาใช้ต่างหากที่ต้องมีความสามารถและชำนาญ

 

สรุปสั้นๆกับคำถามที่หลายๆท่านอยากทราบในการจัดฟันแบบเร่งด่วนมีจริงไหม คำตอบง่ายๆก็คือ มีจริง แต่ไม่ใช่เร็วแบบเดือนหรือสองเดือน ผลสุดท้ายทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวท่านเองเป็นสำคัญ



จัดฟันแบบเร่งด่วน ใช้เวลาสั้นที่สุด สามารถทำได้หรือไม่ ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

3
การทานวิตามินแต่ละตัว เพื่อเป็นการเติมสารอาหารต่างๆ ที่ร่างกายขาดหายไป นอกจากจะเป็นการบำรุงสุขภาพร่างกายแล้ว ยังเป็นการบำรุงผิวและเส้นผมอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้การทานวิตามินได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินได้ดี จึงจำเป็นต้องทานให้เป็นเวลา มาดูกันเลยค่ะว่าวิตามินที่สาวๆ กำลังทานอยู่นั้นควรทานในช่วงไหนกันบ้าง


1.วิตามินเอ
วิตามินเอเป็นวิตามินที่สามารถละลายได้ดีในไขมัน ช่วงเวลาที่ควรกินคือระหว่างมื้ออาหาร หรือจะกินหลังอาหาร 30 นาทีก็ได้เช่นกัน


2.วิตามินบี
การกินวิตามินบีเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี ควรกินในช่วงเช้าขณะที่ท้องว่าง หรือสำหรับใครที่ทานในช่วงท้องว่างแล้วเกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร แนะนำให้กินระหว่างมื้อเช้าหรือหลังอาหารเช้าแทน


3.วิตามินซี
ในส่วนของวิตามินซีนั้นควรกินหลังอาหารเช้า เนื่องจากเป็นวิตามินที่มีกรด อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร ซึ่งการกินวิตามินหลังอาหารถือเป็นประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากอาหารเป็นตัวช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินซีได้ดียิ่งขึ้น


4.วิตามินดี
ช่วงเวลาที่ควรกินวิตามินดีก็คือระหว่างมื้ออาหารหรือหลังอาหารเช้าไม่เกิน 30 นาที และควรหลีกเลี่ยงการกินวิตามินดีในช่วงบ่ายแก่ๆ เพราะจะส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ


5.วิตามินอี
ร่างกายจะทำการดูดซึมวิตามินอีได้ดียิ่งขึ้น หากทานร่วมกับอาหารประเภทที่มีไขมันเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ต อัลมอนด์ อะโวคาโด และถั่วชนิดต่างๆ


6.วิตามินเค
วิตามินเคเป็นวิตามินที่ละลายได้ดีในไขมัน ดังนั้นจึงควรกินวิตามินชนิดนี้ในระหว่างมื้ออาหารหรือหลังอาหารไม่เกิน 30 นาทีจะดีที่สุด


7.แคลเซียม
แคลเซียมคาร์บอเนตเป็นแคลเซียมที่ต้องใช้กรดในกระเพาะอาหารช่วยในการแตกตัว จึงควรกินแคลเซียมชนิดนี้หลังทานอาหารทันที ส่วนแคลเซียมซิเตรตควรกินในช่วงที่ท้องว่าง เนื่องจากร่างกายจะทำการดูดซึมได้ดีกว่า ทั้งนี้ไม่ควรกินแคลเซียมซิเตรตพร้อมกับการทานผักในปริมาณมาก เพราะจะทำการขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย


8.ธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กควรกินตอนท้องว่าง เพราะเป็นกลุ่มแร่ธาตุชนิดละลายน้ำ หากต้องการให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กอย่างเต็มที่ แนะนำให้กินร่วมกับอาหารที่มีวิตามินซีสูง จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น


9.น้ำมันปลา
น้ำมันปลาควรกินหลังทานอาหารไม่เกิน 30 นาที เพราะร่างกายจะทำการดูดซึมน้ำมันปลาได้ดีมากๆ สำหรับผู้ที่ทานยาแอสไพรินควรงดกินวิตามินชนิดนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเลือดออกง่ายหรือเลือดไหลไม่หยุด


10.คอลลาเจน
คอลลาเจนควรกินในช่วงที่ท้องว่างและดื่มน้ำตามในปริมาณมากๆ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้โดยที่ไม่ถูกกรดในกระเพาะอาหารทำลาย และหากต้องการให้เกิดการดูดซึมคอลลาเจนที่ดียิ่งขึ้น แนะนำให้ทานควบคู่กับวิตามินซี


การกินวิตามินหรืออาหารเสริมทุกชนิดจะได้ผลที่ดียิ่งขึ้นเมื่อสาวๆ รู้จักทานให้ถูกเวลา แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรทานในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือเกิดการสะสมในร่างกาย สำหรับใครที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายของเรานั่นเองค่ะ



ยาชูกำลัง: วิตามินบำรุงร่างกาย กินให้ถูกเวลา ได้ประสิทธิภาพเต็มๆ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

4
ขึ้นชื่อว่าหนุ่มสายปาร์ตี้ ไม่ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนๆ ก็คงไม่พลาดติดลิสต์ร้านเหล้า ผับ และบาร์ชื่อดังประจำท้องถิ่นกันไปด้วยเสมอ แต่แน่ใจได้อย่างไรว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างแดนจะไม่เล่นงาน ทำเอาคุณน็อกจนลุกไปเที่ยววันต่อไปไม่ไหว ออกทริปทั้งทีถ้าไม่อยากเมาแอ๋แบบนี้ จด ‘สูตรอาหารแก้เมาค้าง’ จากก้นครัวต่างแดนเหล่านี้ติดไปด้วย พกไว้รับรองอุ่นใจกว่าแน่นอน


‘Fry Up’ จานอุดมโปรตีนและไขมัน

อาหารแก้เมาค้างที่สายดริงก์จากแดนผู้ดียกให้เป็นเมนูแก้แฮงก์สุดคลาสสิก มาในรูปแบบเมนูอาหารเช้าที่เรียกกันว่า ‘Fry Up’ เมนูนี้ทานแล้วอิ่มแบบจุกๆ และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากวัตถุดิบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาว, เบคอน, ไส้กรอก, เห็ดซอเท่ (Sautéed), มะเขือเทศย่าง, ขนมปังปิ้ง, ถั่วกระป๋อง และมันฝรั่งขูดทอด (Hash Browns) สูตรนี้ตกทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันกลายเป็นอีกหนึ่งเมนูประจำชาติของประเทศอังกฤษ ทั้งนี้เคยมีบริษัทผลิตไข่ไก่แห่งหนึ่งทำวิจัย เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพในการแก้เมาค้างของเจ้าเมนู Fry Up ด้วย พบว่าคนที่ทานอาหารเช้าจานจัดเต็มนี้ หลังฟื้นจากปาร์ตี้แสนโหดจะรู้สึกดีขึ้นภายใน 3 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารจากโปรตีนและไขมัน ซึ่งเข้าไปเยียวยาสภาพร่างกายที่อิดโรยได้ดี


แกล้มรสเปรี้ยว

‘ปลาทะเลสดๆ มิกซ์กับน้ำมะนาว มะเขือเทศ เกลือ และพริกไทย’ เป็นจานเด็ดรสแซ่บที่มีเสิร์ฟทั่วไปตามร้านอาหารในเมืองริมชายฝั่ง และเมืองท่องเที่ยวของประเทศเอกวาดอร์ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนหรือแม้กระทั่งคนพื้นที่ที่โดนฤทธิ์แอลกอฮอล์เล่นงาน มักได้รับคำแนะนำให้ถอนอาการเมาค้างด้วยเมนูนี้เสมอ เพราะทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นคล้ายเมนูยำในบ้านเรา ทั้งนี้ข้อมูลเผยว่าคนเอกวาดอร์นิยมทานเมนูปลาดิบรสแซ่บสไตล์นี้ คู่กับของทานเล่นประเภททอดหรือคั่ว เช่น ข้าวโพดคั่ว หรือกล้ายทอด (กล้าย หรือ Plantain เป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับกล้วย เติบโตดีในทวีปแอฟริกาและประเทศแถบลาตินอเมริกา) นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเมนูที่นิยมนำมาทานแก้แฮงก์กัน เป็นเมนูประจำชาติที่มีชื่อว่า ‘Encebollado’ ทำจากปลาทะเลใส่หอมแดงดอง โดยอาศัยรสเปรี้ยวจากหอมแดงดองมาช่วยแก้อาการพะอืดพะอม



ซุปไก่และซุปเนื้อวัวรสคล่องคอ

สูตรอาหารแก้เมาค้างของหนุ่มๆ แดนกิมจิ ทำจากไก่, โสมเกาหลี, ข้าวสาร, และพุทรา โดยนำทั้งหมดมาตุ๋นในหม้อดิน ปรุงรสตามในชอบ เรียกเมนูนี้ว่า ‘Samgyetang (삼계탕)’ เวลาทานต้องยกเสิร์ฟพร้อมหม้อดินแบบกำลังเดือดปุดๆ นอกจากทานเพื่อให้ฟื้นตัวจากพิษโซจูแล้ว ยังนิยมทานเป็นอาหารเช้าในช่วงที่อากาศหนาวจัดด้วย แม้รสชาติโสมจะค่อนข้างขมจนทำให้ซุปนี้ทานยากมากขึ้น แต่จากประสบการณ์ที่นักดื่มส่วนใหญ่ได้ลอง ต่างพูดเป็นเสียงกันว่าหลังซดซุปไปไม่กี่นาที อาการมึนหัวและคลื่นไส้จะหายไปในทันที ชนิดที่ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมาค้างแต่อย่างใด ไม่เพียงแต่ซุปไก่เท่านั้น ชาวเกาหลีใต้ยังนิยมซดซุป ‘Haejang-Guk (해장국)’ ซึ่งทำจากเนื้อวัว, ใส่ไส้กรอกเลือด, เครื่องในวัว และกะหล่ำปลี เพื่อแก้แฮงก์อีกด้วย เป็นสูตรที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โครยอ ราชวงศ์ลำดับแรกของเกาหลีใต้ เดิมทีนิยมทานกันเฉพาะในกลุ่มคนชนชั้นสูง ต่อมารสชาติสุดกลมกล่อมจึงได้ถ่ายทอดมาสู่สามัญชน



ซุปกระดูกวัวและช็อกโกแลตร้อน

ซุปสูตรโคลัมเบียอย่าง ‘Caldo de Costilla’ เมื่อซดร้อนๆ ก็ช่วยให้หายใจโล่งและฟื้นจากอาการเมาค้างได้ดี คนท้องถิ่นถึงกับยกให้เป็นสูตรแก้แฮงก์ที่ปลุกสายดริงก์จากความตายได้เลยทีเดียว ส่วนผสมที่ช่วยให้ออกฤทธิ์ได้ดีขนาดนี้ได้มาจากกระดูกวัว, มันฝรั่ง, หอมใหญ่, กระเทียม และยี่หร่า โดยนำทุกอย่างมาตุ๋นรวมกันแล้วปรุงรสตามใจชอบ โรยผักชีสดๆ ตบท้าย ตักเสิร์ฟตอนยังร้อนจัด ปล่อยให้ควันหอมฉุยปะทะใบหน้าสักพัก แล้วซดตอนยังอุ่นๆ อยู่ จะให้ความรู้สึกสบายท้อง สำหรับใครไม่ทานเนื้อวัว ชาวโคลัมเบียยังได้แนะนำเมนูแก้เมาค้างที่ทานกันได้ทุกเพศทุกวัยอย่าง ‘Hot Chocolate’ มาด้วย ดื่มเข้าไปรับรองว่าฟื้นตัวได้ดีไม่แพ้เมนูของคาวเลย



ปลาเฮร์ริงม้วนกับผักดองสดรสเปรี้ยว

ชาวเยอรมันจัดการอาการคลื่นไส้หลังจัดหนักกับปาร์ตี้ ด้วยเมนูท้องถิ่นทางตอนเหนือของประเทศ อย่าง ‘Rollmops’ เมนูนี้มีพระเอกคือปลาม้วนสอดไส้ผักดอง เป็นภูมิปัญญาการถนอมอาหารของชาวเยอรมันตั้งแต่อดีต โดยในฤดูที่ปลาเฮร์ริง (Herring) ชุกชุม จะนำมาดองเพื่อให้เก็บไว้กินได้นาน เวลาดองจะแร่เนื้อปลาพร้อมหนังออกเป็นแผ่นตามยาว จากนั้นนำมาม้วนโดยสอดไส้หัวหอมหรือแตงกวาไว้ตรงกลาง แล้วใช้ไม้กลัดเพื่อยึดทุกอย่างเข้าด้วยกัน นำส่วนผสมที่ได้ลงดองในโหลหรือหม้อดินบรรจุน้ำเกลือนานอย่างน้อย 2 วัน ก็พร้อมทาน ทั้งนี้คนท้องถิ่นนิยมทาน Rollmops แบบสดๆ บางคนก็ทานแกล้มกับผักดองและครีมเปรี้ยว หากคุณไม่ทานดิบสามารถนำไปปรุงสุกด้วยการอบหรือรมควัน แล้วทานคู่กับขนมปังคล้ายเบอร์เกอร์ก็ได้ เมนูนี้ยังนิยมทานเป็นมื้อหลักในสวีเดน สก็อตแลนด์ และเนเธอแลนด์อีกด้วย


ซุปกระเพาะวัวและน้ำกะหล่ำปลีเปรี้ยว

ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงของชาวบัลแกเรีย มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำท้องถิ่นอย่าง ‘Rakia’ เป็นเครื่องดื่มหลัก มื้อแรกหลังกระดก Rakia แบบเต็มที่ นักดื่มมักถอนพิษเหล้าด้วยการซุปกระเพาะวัวร้อนๆ เมนูนี้เรียกกันว่า ‘Shkembe Chorba’ (หรือ Tripe Soup) ปรุงง่ายๆ ด้วยการตุ๋นกระเพาะวัวกับนมสด, กระเทียม, น้ำส้มสายชู, พริกไทย, พริกแดง, น้ำมันเล็กน้อย และเกลือ ตั้งไฟทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็พร้อมทาน นิยมทานหลังดื่มหรือไม่ก็ทานเป็นกับแกล้มไปพร้อมกันเลย ส่วนอีกเมนูก็นิยมไม่แพ้กันนั่นคือ ‘น้ำกะหล่ำปลีเปรี้ยว (Sour Cabbage Juice)’ โดยนำกะหล่ำปลีมาหมักกับโยเกิร์ต น้ำเปล่า และเกลือ เพื่อถนอมอาหารไว้กินช่วงฤดูหนาวของทุกปี เมนูนี้มีงานวิจัยรองรับด้วยว่าสามารถลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งได้



เครื่องดื่มเกลือแร่ชดเชย

หากเกิดอาการแฮงก์จนบ้านหมุนหลังกลับจากปาร์ตี้ที่ประเทศสวีเดนล่ะก็ ไม่ต้องกังวลไป สายดริงก์ที่นี่มียาสามัญประจำตัวคือ ‘Bakis’ เกลือแร่ยี่ห้อดังของประเทศ เพียงนำเมล็ดเกลือแร่มาละลายน้ำแล้วดื่มก่อนเข้านอน เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไป เนื่องจากเวลาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปปริมาณมาก ร่างกายจะสูญเสียน้ำไปในปริมาณมากเช่นกัน เมื่อดื่มเกลือแร่แล้วจะทำให้รู้สึกดีขึ้นตอนตื่นนอน ถือเป็นไอเทมจำเป็นที่หนุ่มสาวชาวสวีเดนหลายคน พกติดกระเป๋าเวลาเดินทางไปแฮงก์เอาต์ต่างประเทศด้วย


น้ำมะเขือเทศ

‘Bloody Mary’ เครื่องดื่มค็อกเทลชื่อดังที่รู้จักกันดีในหลายประเทศ ถูกนำมาบันทึกในตำราถอนพิษสุราของฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา ด้วยฤทธิ์สัมผัสรุนแรงและโดดเด่นจากวอดก้า, ซอสวูสเตอร์เชีย, ซอสทาบาสโก, น้ำมะเขือเทศ, เกลือ, พริกไทยดำ, และพริกชี้ฟ้า ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกร้อนวูบวาบ จมูกโล่ง เหมือนได้สร่างเต็มตา ตำนานเล่าว่าค็อกเทลชนิดนี้คิดค้นโดยบาร์เทนเดอร์ชาวอเมริกัน ประจำโรงแรมชื่อดังอย่าง เซนต์ รีจิส (St.Regis) ชื่อเมนูมีการแฝงนัยการเสียดสีพระราชประวัติของสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 แห่งอังกฤษ จากกรณีที่เคยสั่งล่าและสังหารโหดผู้คนที่หันไปนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปแตสแตนต์ โดยให้สีแดงของน้ำมะเขือเทศเป็นตัวแทนของเหตุการณ์นองเลือด อย่างไรก็ตามมีบางหลักฐานค้านว่าความจริงแล้ว เครื่องดื่มชนิดนี้เพียงแค่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากชื่อของดาราภาพยนตร์คนดังของฝรั่งเศสในอดีต กระทั่งมีการพัฒนารสชาติจนเป็นที่ติดอกติดใจของนักดื่มจนมาถึงปัจจุบัน


นมเปรี้ยวสูตรพิเศษและน้ำแตงกวาดอง

ตัวช่วยแก้อาการเมาค้างที่ชาวเมืองหมีขาวอย่างรัสเซียแนะนำคือ ‘Milk Kefir’ เป็นนมเปรี้ยวสูตรพิเศษของท้องถิ่น ทำจากหัวเชื้อนม Kefir ซึ่งประกอบไปด้วยยีสต์และกรดแล็กติก (Lactic) ผสมกับนมวัวหรือนมแกะสดๆ จนได้เป็นมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไป ทั้งยังเป็นเมนูเฮลธ์ตี้ที่ชาวรัสเซียนิยมทานเพื่อดีท็อกซ์ร่างกายอีกด้วย นอกจากนั้นรสเปรี้ยวที่โดดเด่นยังช่วยลดอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ดี ที่รัสเซียยังมีวัฒนธรรมการดื่ม ‘น้ำแตงกวาดอง’ แก้เมาค้าง ซึ่งได้ผลดีเช่นกัน คล้ายเป็นการเติมเกลือแร่เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป


เมนูแปลกลูกตาแกะดองใส่น้ำมะเขือเทศ

เมนูชวนขนลุกของมองโกเลียอย่าง ‘ลูกตาแกะดองใส่น้ำมะเขือเทศ’ หรือ A Pair of Pickled Sheep Eyes in Tomato Juice ก็แก้อาหารเมาหัวทิ่มได้ดีชะงัดนัก อย่างไรก็ตามในทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่า วัตถุดิบหลักอย่างมะเขือเทศน่าจะเป็นฮีโร่ของเมนูนี้มากกว่า เพราะอุดมไปด้วยโซเดียมและโพแทสเซียม ช่วยให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ทดแทนส่วนที่ถูกขับออกไป เหมือนเวลาเราทานเกลือแร่บรรเทาอาการท้องร่วงที่ทำให้ร่างกายเสียน้ำในปริมาณมาก ส่วนการใส่ลูกตาแกะลงไปด้วยน่าจะเป็นวัฒนธรรมการกินของชาวมองโกเลียมากกว่า ดังนั้นเวลาไปเที่ยวที่ประเทศนี้แล้วแฮงก์จนเสียการทรงตัว ตื่นเช้ามาอาจเลือกทานแค่น้ำมะเขือเทศสดๆ สักแก้วก็เพียงพอ แต่หากสนใจเมนูแปลกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อยากหาเมนูท้องถิ่นเมนูนี้มาลอง ก็ไม่ว่ากัน


สูตรอาหารแก้เมาค้างจากก้นครัวต่างแดน จะปาร์ตี้ประเทศไหนก็เอาอยู่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

5
สาเหตุโรคปอดอักเสบติดเชื้อ

“โรคปอดอักเสบติดเชื้อในเด็ก” เป็นโรคที่พบบ่อย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ซึ่งพบว่าในแต่ละปีมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนทั่วโลก โรคปอดอักเสบติดเชื้อ เกิดจากการติดเชื้อในปอดซึ่งอาจเป็นได้จากการติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียร่วมกัน

โรคปอดอักเสบติดเชื้อ ติดต่อได้อย่างไร?

โรคปอดอักเสบติดเชื้อ สามารถติดต่อได้อย่างทาง ตั้งแต่การหายใจรับเชื้อเข้าสู่ปอดโดยตรง การแพร่กระจายทางกระแสเลือด ในบางส่วนอาจเกิดจากการสำลักอาหาร หรือสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่มีเชื้อโรคปะปน

สังเกตอาการปอดอักเสบติดเชื้อในเด็ก

    มีไข้
    ไอ มีเสมหะ
    หายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบาก
    ชายโครง หรือหน้าอกบุ๋มขณะหายใจ
    ในเด็กเล็กอาจมีอาการซึม ไม่ดูดนม หรือชักจากมีไข้สูง

วิธีการป้องกันโรคปอดอักเสบติดเชื้อในเด็ก

หมั่นล้างมือทำความสะอาดบ่อย
ฉีดวัคซีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน
หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด หรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย
หลีกเลี่ยงมลภาวะทางอากาศ ควันบุหรี่ ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์

   
ดูแลสุขอนามัย รักษาความสะอาดในบ้านอยู่เสมอ

โปรแกรมวัคซีนไอพีดี (IPD)

สร้างภูมิคุ้มกันให้เจ้าตัวน้อย ป้องกันการติดเชื้อนิวโมคอคคัส ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคปอดอักเสบชนิดรุนแรง โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และการติดเชื้อในกระแสเลือด ด้วยการฉีดวัคซีนไอพีดี ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ดื้อยาได้ดี

สังเกตอาการโรคปอดอักเสบติดเชื้อในเด็ก อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/151

6
โปรโมทฟรี / โรคหิด (Scabies)
« เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2024, 14:57:53 pm »
หิด เป็นโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากตัวหิด

โรคนี้พบได้บ่อยในคนทุกวัย มักพบเป็นพร้อมกันหลายคนในบ้าน

บางครั้งอาจพบระบาดตามวัด โรงเรียน โรงงาน กองทหาร ทัณฑสถาน

ความยากจน ความสกปรก และการอยู่กันแออัด เป็นปัจจัยสำคัญของการระบาดของโรคนี้

หิด

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อหิดซึ่งเป็นตัวไรเล็ก ๆ สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าเป็นจุดขาวเล็ก ๆ มีชื่อว่า Sarcoptes scabiei ตัวอ่อนมี 6 ขา ตัวแก่มี 8 ขา ตัวเมียเมื่อผสมพันธุ์แล้วจะขุดรูอยู่ใต้ผิวหนังชั้นนอกสุด (ชั้น stratum corneum) และวางไข่วันละ 1-3 ฟอง จนวางครบ 25 ฟอง ก็จะตายไป ไข่จะฟักเป็นตัวอ่อนใน 3-4 วัน และอาศัยอยู่ในรูขุมขน ทำให้มีตุ่มแดงตรงรูขุมขนและมีอาการคัน ตัวหิดสามารถมีชีวิตอยู่ภายนอกร่างกายของคนเรา (ที่อุณหภูมิห้อง) ได้ 2-3 วัน

สามารถติดต่อได้ง่าย โดยการสัมผัสหรือใช้ของร่วมกัน

บางรายอาจติดต่อโดยการร่วมเพศ ทำให้เกิดตุ่มคันตรงบริเวณอวัยวะเพศ จึงถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง

อาการ

ผู้ป่วยจะมีตุ่มน้ำใสและตุ่มหนอง คัน ขึ้นกระจายเหมือนกันทั้ง 2 ข้างของร่างกาย มักจะพบที่ง่ามนิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อมือ ข้อศอก รักแร้ รอบหัวนม รอบสะดือ ก้น ข้อเท้า อวัยวะเพศ (ในเด็กอาจขึ้นที่หน้าและศีรษะ ส่วนในผู้ใหญ่มักไม่ขึ้นในบริเวณนี้)

บางรายอาจพบเป็นผื่นนูนแดงคดเคี้ยว ขนาดเท่าเส้นด้าย ยาวประมาณ 2-3 มม. ซึ่งตรงปลายสุดจะเป็นที่อยู่ของตัวหิด

ผู้ป่วยมักจะมีอาการคันมาก โดยเฉพาะตอนกลางคืน

บางรายอาจเกาจนมีเชื้อแบคทีเรียอักเสบซ้ำเติม เป็นตุ่มหนองพุพองหรือน้ำเหลืองไหล

ภาวะแทรกซ้อน

ผู้ป่วยมักเกาจนกลายเป็นแผลพุพอง และถ้าติดเชื้อบีตาฮีโมไลติกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเออาจกลายเป็นหน่วยไตอักเสบแทรกซ้อนได้

เด็กบางรายอาจคัน จนนอนไม่พอ กินไม่ได้ และน้ำหนักลด

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ถ้าไม่แน่ใจ แพทย์จะขูดเอาเศษเนื้อเยื่อตรงรอยโรคไปตรวจดูตัวหรือไข่ของไร (หิด) ทางห้องปฏิบัติการ

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ใช้ยาฆ่าหิด เช่น เบนซิลเบนโซเอตชนิด 25% โดยอาบน้ำถูสบู่ (ใช้ผ้าขนหนู หรือแปรงนุ่มขัดถูด้วยยิ่งดี) และเช็ดตัวให้แห้งก่อน แล้วจึงทายาทั่วทุกส่วนของร่างกายนับตั้งแต่คอลงมาโดยตลอด รวมทั้งผิวหนังส่วนที่ปกติด้วย พอครบ 24 ชั่วโมงให้ทาซ้ำอีกครั้ง ระหว่างนี้อย่าเพิ่งอาบน้ำและล้างมือ (ถ้าจำเป็นต้องล้างมือ ต้องทายาซ้ำหลังเช็ดมือให้แห้ง) จนกว่าจะครบ 48 ชั่วโมง นับตั้งแต่ทายาครั้งแรก จึงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวและผ้าปูที่นอนใหม่ทั้งหมด ถ้ายังไม่หายขาด ให้ทำซ้ำอีกครั้งในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา

2. ถ้ามีตุ่มหนองพุพองหรือน้ำเหลืองไหล ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น ไดคล็อกซาซิลลินหรืออีริโทรไมซิน และให้การดูแลรักษาแบบแผลพุพอง ควรให้ยาปฏิชีวนะอย่างน้อย 10 วัน

การดูแลตนเอง

ถ้ามั่นใจหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นหิด ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    ใช้ยารักษาหิดเหา - เบนซิลเบนโซเอตชนิด 25% โดยอาบน้ำถูสบู่ (ใช้ผ้าขนหนู หรือแปรงนุ่มขัดถูด้วยยิ่งดี) และเช็ดตัวให้แห้งก่อน แล้วจึงทายาทั่วทุกส่วนของร่างกายนับตั้งแต่คอลงมาโดยตลอด รวมทั้งผิวหนังส่วนที่ปกติด้วย พอครบ 24 ชั่วโมงให้ทาซ้ำอีกครั้ง ระหว่างนี้อย่าเพิ่งอาบน้ำและล้างมือ (ถ้าจำเป็นต้องล้างมือ ต้องทายาซ้ำหลังเช็ดมือให้แห้ง) จนกว่าจะครบ 48 ชั่วโมง นับตั้งแต่ทายาครั้งแรก จึงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวและผ้าปูที่นอนใหม่ทั้งหมด ถ้ายังไม่หายขาด ให้ทำซ้ำอีกครั้งในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา


ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา
    มีไข้ หรือเกิดแผลพุพองตรงบริเวณรอยโรค
    ใช้ยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

การป้องกัน

    อย่าสัมผัสใกล้ชิด หรือนอนบนเตียงด้วยกันกับผู้ป่วย
    อย่าใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้ป่วย

ข้อแนะนำ

1. ควรรักษาทุกคนในบ้านที่เป็น หรือสงสัยติดโรคพร้อมกัน

2. เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว และเครื่องนอนที่ผู้ป่วยใช้ ควรซักให้สะอาด (ด้วยน้ำและผงซักฟอกธรรมดา) และผึ่งแดดทุกวันจนกว่าจะหาย

3. ผู้ป่วยควรตัดเล็บให้สั้น และพยายามอย่าเกาเพราะอาจลามไปที่อื่นได้ง่าย

4. ควรแยกเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอนต่างหาก อย่าใช้ปะปนกับผู้อื่น รวมทั้งอย่านอนรวมกับคนอื่น เพื่อป้องกันการแพร่โรคให้คนอื่น



โรคหิด (Scabies)  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions

7
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ
👉 สารสกัดกระชาย 200 มก.
👉 ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
👉 แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
👉 วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


8
รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/




9
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



10
ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน Harley-Davidson Sport Nightster ปี 2023
Nightster คือ ตัวแทนที่สืบทอดรากฐานมาจากรุ่น Sportster ที่มีจุดเริ่มต้นเมื่อ 65 ปีก่อน เหมาะกับนักขับขี่ทุกแนว เด่นด้วยน้ำหนักเบา มาพร้อมเครื่องยนต์ทรงพลังแสดงถึงสมรรถนะระดับกลาง ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวสำหรับทั้งทางเรียบและทางคดเคี้ยว ท่าขี่แบบ middle control และแฮนด์บาร์แบบต่ำช่วยให้ผู้ขับขี่นั่งอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกสบายและอยู่ตรงกลางของรถมอเตอร์ไซค์ และด้วยเบาะที่นั่งต่ำบวกกับรูปทรงหน้ารถที่เพรียว จึงทำให้ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่สามารถวางเท้าราบกับพื้นได้อย่างมั่นใจในขณะจอด . หัวใจสำคัญของ Nightster คือ เครื่องยนต์ Revolution Max 975T ใหม่ล่าสุด เครื่องยนต์แบบ V-Twin 60 องศา ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ให้แรงบิดในรอบที่กว้าง และสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มอัตราเร่งที่ทรงพลังและแข็งแกร่ง

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์            Harley-Davidson
   รุ่น               ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน Harley-Davidson Sport Nightster ปี 2023
   ประเภทรถ         รถครูสเซอร์-ชอปเปอร์, Sport Bigbike
   ปีที่เปิดตัว         2023
   ราคา              658,000 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์          เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์           6 ระดับ
   รายละเอียดเครื่องยนต์  Revolution Max 1250T
   ระบบระบายความร้อน   น้ำ
   ระบบสตาร์ท         สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC) 975 CC
   แบบเครื่องยนต์       4 จังหวะ
   ระบบจุดระเบิด       Electronic Sequential Port Fuel Injection
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง เบนซิน 95
   ระบบจ่ายน้ำมัน       หัวฉีด
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)  11.7 ลิตร

   ระบบกันสะเทือน
ล้อหน้า วาล์วแบบ Dual Bending ของ SHOWA? ขนาด 41 มม. ทริปเปิลแคลมป์ชุดตะเกียบอะลูมิเนียม, ล้อหลัง ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นโช้คอัพแบบคู่ติดตั้งภายนอกด้วยเทคโนโลยีอิมัลชันแบบต่อตรง (ไม่มีการเชื่อมโยง) พร้อมคอยล์สปริงและปลอกคอเกลียวสำหรับปรับพรีโหลด

   ระบบเบรค           ล้อหน้า ดิสก์เบรก (จานเดี่ยวแบบลอย คาลิปเปอร์ 4 สูบ ติดตั้งบนแกน), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (จานเบรกแบบตัน ครลิปเปอร์ลูกสูบลอยแบบเดี่ยว)
   แบบวงล้อ           aluminum
   ขนาดยาง           ล้อหน้า 100/90-19 57H, ล้อหลัง 150/80B16 77H
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.) 2,250 X - X 705
   น้ำหนักตัวรถ             221.00 กก.


bigbike ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน Harley-Davidson Sport Nightster ปี 2023 อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorcycle/bigbike/

11
เสียวหมี่ Xiaomi RedmiNote 13 (8GB/256GB)
โดดเด่นในทุกช็อต กล้อง 3 ตัว 108MP
จอแสดงผล 120Hz FHD+ AMOLED
ประสิทธิภาพอันทรงพลังของ Snapdragon®
ชาร์จเร็ว 33W พร้อมแบตเตอรี่ 5000mAh*

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น             เสียวหมี่ Xiaomi RedmiNote 13 (8GB/256GB)
   ราคากลาง            -
   จำนวนซิม          2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์         จอสัมผัส
   สี                     Black(Midnight Black), Green(Mint Green), Yellow(Ocean Sunset)

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM: 850 900 1800 1900MHz)
3G(WCDMA:1/5/8)
4G(LTE FDD:1/3/5/7/8/20/28 | LTE TDD:38/40/41)

   ขนาด-น้ำหนัก                    ยาว 162.24 x กว้าง 75.55 x หนา 7.97 มม., น้ำหนัก 188.5 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)    256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด      -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ        ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ                  จอสัมผัส (AMOLED)
   ความละเอียด           6.67 นิ้ว, 1,080 x 2,400 px

   รายละเอียดอื่น
อัตรารีเฟรช: สูงสุด 120Hz
ความสว่าง: ความสว่างสูงสุด 1800 nits
อัตราคอนทราสต์: 5,000,000:1
ช่วงสีกว้าง 100% DCI-P3
กระจก Corning® Gorilla® 3

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด               กล้องหลัง (108 Mpx), กล้องหน้า (16 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                           -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)          Snapdragon? 685 Octa-Core CPU สูงสุด 2.8GHz
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)      Adreno 610
   หน่วยความจำ (RAM)                 8.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก                 USB(Type-C), Bluetooth(5.1), Jack(3.5 มม.), Wi-Fi(802.11a/b/g/n/ac)
   ระบบรับส่งข้อความ                       -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต                3G, WiFi, 4G, 5G

มือถือ Xiaomi เสียวหมี่ Xiaomi RedmiNote 13 (8GB/256GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/xiaomi/

12
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

เหนื่อย เฉื่อย ชา ล้าสมอง
แฮงก์ มึนตึบ ง่วงนอน

ต้อง เอ็มเมด ออน เลย
แค่ฉีกแล้วเทใส่ปาก ดูดซึมไว หายมึนตึบ

วิตามินที่เป็นผง ละลายในปาก ดูดซึมได้ดีกว่า วิตามินที่เป็นเม็ด
จะเล่นเกมส์หนัก ดูซีรี่ย์ดึก ทำงานกะดึก
ตื่นสายแค่ไหน ก็แค่ ฉีกซอง กรอกปาก แล้วดื่มน้ำตาม
สดชื่นทันที ขับขี่ปลอดภัย พร้อมทุกสถานการณ์
ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน วิตามินผงละลายในปาก
ดูดซึมไว ช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ทันที
ปลอดภัยกว่า ควบคุมโดยเภสัชมหิดล

ส่วนประกอบสำคัญ ใน เอ็มเมด ออน
L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.

ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน
ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกาย ด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย
เลขที่ใบจดแจ้ง อย : 13-1-15859-5-1159
รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม)
เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยว ก่อนกลืน ดื่มน้ำตาม

สารกระตุ้น ที่ขายในท้องตลาด
ปลอดภัยกับร่างกายมากน้อยแค่ไหน!!!
ส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่!!!
ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า โดยเภสัชมหิดล
สำหรับคนนอนดึก เข้ากะดึก ง่วง หงาว หาว อยากนอน
แค่ ฉีก ซอง ใส่ปาก แล้วดื่มน้ำตาม ก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึก สดชื่น ได้ทันที
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์ https://mmed.com/promotions/


13
ใครที่มีความดันโลหิตสูง แนะนำให้กินอาหาร 6 ประเภทนี้ก็จะมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตได้ดี เพราะอาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดีต่อสุขภาพ กินแล้วมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตได้!

 
1. แซลมอน ปลาที่มีกรดไขมัน

ปลาที่มีกรดไขมัน เช่น แซลมอน เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ รวมถึงยังมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูง และลดอาการอักเสบได้อีกด้วย แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจหรือเบาหวาน การกินปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้

 
2. ไข่

การกินไข่ มีส่วนช่วยควบคุมความดันโลหิตได้ โดยผู้ที่กินไข่จะมีระดับความดันโลหิตที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่กินไข่ อีกทั้งการกินไข่ยังไม่พบความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจอีกด้วย ดังนั้นไข่จึงถือเป็นอาหารอีกหนึ่งอย่างที่มีส่วนช่วยลดความดันโลหิตได้ดี

 
3. โยเกิร์ต

โยเกิร์ต อุดมไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดีต่อสุขภาพ และยังสามารถช่วยควบคุมความดันโลหิตได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโพแทสเซียมและแคลเซียม กินโยเกิร์ตแล้วมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูงได้

 
4. ดาร์กช็อกโกแลต

ดาร์กช็อกโกแลตก็มีส่วนช่วยลดความดันโลหิตได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากคาเคา (Cacao) ที่อยู่ในดาร์กช็อกโกแลตนั่นเองที่เข้ามาช่วย เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟลาโวนอยด์ ซึ่งฟลาโวนอยด์นั้นมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ดี

 
5. อาหารหมักที่มีประโยชน์

อาหารหมัก ไม่ว่าจะเป็น เทมเป้ คอมบูชา มิโซะ กิมจิ รวมถึงแอปเปิลไซเดอร์ เวนิกา เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ดีต่อสุขภาพ เพราะเป็นแหล่งของโพรไบโอติกส์ กินแล้วช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดี และมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูงได้

 
6. น้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดความดันโลหิตสูง และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากในน้ำมันมะกอกมีกรดไขมันโอเมก้า 9 และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างโพลีฟีนอล ซึ่งมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูงนั่นเอง
 

อาหารสุขภาพ สำหรับคนมีความดันโลหิตสูง ช่วยลดความดันโลหิต นอกจากผักผลไม้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

14
หากพูดถึงงานเลี้ยงสังสรรค์แล้ว หลายคนจะต้องนึกถึงเครื่องดื่มสุดแสนอร่อย ยิ่งถ้าเป็นงานปาร์ตี้และมีการจัดเลี้ยงในรูปแบบของงานเลี้ยงค็อกเทลแล้วด้วย ต้องนึกถึงเมนูค็อกเทลยอดฮิตอย่าง Margarita แน่นอน ซึ่งเป็นค็อกเทลที่ได้รับความนิยมมาก และยังมีรสชาติที่นุ่ม กลมกล่อม และยังมีเอกลักษณ์คือการตกแต่งปากแก้วด้วยขอบเกลือ ทำให้เมนู  Margarita มีรสชาติที่เปรี้ยวๆหวาน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมาก  ถือได้ว่า เป็นส่วนผสมที่ลงตัวเลยทีเดียว สำหรับการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลนั้น ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการจัดเลี้ยงในรูปแบบหนึ่งที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ทั้งยังเป็นการจัดเลี้ยงที่ได้รับความนิยมมาก

โดยเฉพาะงานเลี้ยงแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆ รวมไปถึงการจัดปาร์ตี้สังสรรค์ ซึ่งจะมีการจัดทั้งในอาคารและพื้นที่กลางแจ้ง รวมไปถึงริมสระน้ำ โดยจะมีลักษณะเป็นงานที่ไม่เป็นพิธีการมากนัก เหมาะสำหรับวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ และมีบรรยากาศงานที่มีความสนุกสนาน เป็นกันเอง แขกภายในงานสามารถเดินพูดคุย พร้อมกับการรับประทานอาหารไปด้วยได้ โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของโต๊ะหรือเก้าอี้ที่ใช้รับรองแขกภายในงานเลย เพราะงานจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลส่วนใหญ่ แขกภายในงานจะยืนหรือเดินไปพบปะพูดคุยกับแขกท่านอื่นๆจะทำให้ลดปัญหาในเรื่องของพื้นที่การนั่งรับประทานอาหารได้นั่นเอง และสำหรับในเรื่องของเวลาในการจัดเลี้ยงนั้น ส่วนใหญ่จะนิยมจัดในระหว่าง 5 โมงเย็น และ 3 ทุ่ม อาหารภายในงานก็จะเป็นอาหารที่ลักษณะพอดีคำ สามารถใช้มือหยิบจับได้สะดวก โดยไม่ต้องใช้ส้อมหรือช้อน และอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ควรจิ้มด้วยไม้จิ้มฟัน เพื่อให้แขกจับได้สะดวก และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ควรมีอย่างน้อย 3 อย่าง เพื่อให้แขกได้เลือกดื่มอย่างหลากหลาย เพื่อเพิ่มสีสันให้กับงานเลี้ยงของคุณได้อีกด้วย

สำหรับวันนี้ทางเราจะมาแนะนำเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตที่ควรจะมีในงานเลี้ยงแบบค็อกเทล ที่เรียกว่า ขาดไม่ได้เลยทีเดียวนั่นก็คือ Margarita เครื่องดื่มที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร มีรสชาติกลมกล่อม เพิ่มสีสันให้ไม่น่าเบื่อเลยทีเดียว สำหรับเมนู Margarita นี้ ก็มีด้วยกันหลายสีสัน อยู่ที่ว่าจะเลือกส่วนผสมอะไรเข้ามาเป็นส่วนผสมหลักเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยเพิ่มมากขึ้น

สำหรับสูตรการทำเครื่องดื่ม  Margarita นั้น ก็ง่ายมาก เพียงแค่มีส่วนผสมและอุปกรณ์ โดยมี ตากีล่า น้ำมะนาว ทริเปิล เซค น้ำเชื่อม เกลือ มะนาวหั่นบาง และสำคัญทีสุดคือ น้ำแข็ง และวิธีการทำก็ง่ายมากเพียงแค่ นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในกระบอกเชก พร้อมกับน้ำแข็งในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วเชกให้ส่วนผสมเข้ากันประมาณ 10 วินาที จากนั้นค่อยๆ รินส่วนที่เป็นน้ำอย่างเดียวลงไปในแก้วค็อกเทล จากนั้นตกแต่งด้วยมะนาวที่หั่นไว้ให้สวยงาม ก่อนดื่มให้ทาเกลือลงไปบริเวณปากแก้ว แล้วนำชิ้นมะนาวทาวนลงบนเกลืออีกที  เพียงเท่านี้เราก็จะได้รสชาติเครื่องดื่มมาตรฐานของ Margarita อย่างลงตัว ต้องบอกเลยว่า เมนูเครื่องดื่มค็อกเทลดังกล่าวนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ  และยังเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากอีกด้วย เรียกว่า สายปาร์ตี้ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
 

นอกจากเครื่องดื่มภายในงานเลี้ยงแบบค็อกเทลแล้ว ในเรื่องของอาหารภายในงานก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน  เราควรที่จะ เพิ่มซุ้มอาหารให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งเพิ่มความประทับใจให้กับแขกภายในงานได้ ทำให้งานเลี้ยงไม่น่าเบื่อ และสามารถดื่มด่ำกับเครื่องดื่มและอาหารได้อย่างไม่สะดุด เพราะฉะนั้น ควรเลือกอาหารค็อกเทลให้มีความหลากหลาย เพราะแขกของเราก็อาจจะมีความชอบที่หลากหลาย


ดังนั้น จึงไม่ควรลืมเลือกอาหารที่มีความหลากหลายเพื่อให้รสชาติโดยรวมอร่อยขึ้น เช่น ควรมีเมนู หมู ไก่ เนื้อ ปลา ให้แขกได้เลือก หรือเมนูผักเยอะกับเมนูเนื้อเน้นๆ และที่สำคัญอาหารจะต้องเข้ากับเครื่องดื่มที่เราใช้รับรองแขกภายในงานให้เข้ากันอย่างลงตัวโดยไม่น่าเบื่อ อย่างไรก็ตาม ทางเรามีบริการในด้านการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการจะจัดงานเลี้ยง ทางเรามีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดเลี้ยง การันตีด้วยประสบการณ์ในการจัดศูนย์อาหารภายในโรงพยาบาล โรงงานต่างๆ และยังมีบริการในส่วนของพนักงานเสิร์ฟ ที่มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมให้คุณได้จัดงานเลี้ยงได้อย่างสมบูรณ์แบบ




การจัดเลี้ยงนอกสถานที่ Margarita ค็อกเทลที่สายปาร์ตี้ไม่ควรพลาด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

15
สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม เพราะฟันของเด็กนั้น ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ หากฟันมีปัญหาตั้งแต่ยังเป็นฟันน้ำนม อาจจะส่งผลให้การขึ้นของฟันแท้มีปัญหาได้ ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลง และจะได้แก้ไขได้ทันเวลา ในวัยเด็กนั้น เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เด็กในวัยนี้มักจะชอบรับประทานของหวาน เช่น ลูกอม ช็อกโกแลต หรือขนมหวานที่มีส่วนผสมของน้ำตาลจำนวนมาก


ซึ่งในอีกแง่หนึ่งก็คือของหวานเหล่านี้ เป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ และปัญหาฟันอื่นๆตามมา ในเรื่องของพฤติกรรมหรือของที่เด็กชื่นชอบ พ่อแม่ควรจัดให้ในปริมาณที่เหมาะสมกับลูกน้อย หรืออาจจะใช้ของว่างอื่นๆทดแทนขนมหวาน ซึ่งนอกจากจะดีต่อสุขภาพช่องปากและฟันแล้ว ยังดีต่อสุขภาพของลูกๆอีกด้วย สำหรับวันนี้ทาง คลินิกเราจะมาแนะนำอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพฟันของเด็กๆ เพื่อเป็นแนวทางให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ปรับเปลี่ยนเมนูอาหารว่างให้เด็กๆ ได้


สำหรับอาหารของเด็กๆในวัยนี้ ควรที่จะมีส่วนในการช่วยป้องกันการเกิดโรคฟันผุได้เป็นอย่างดี เศษอาหารที่ตกค้างอยู่บนรูและร่องฟันในด้านบดเคี้ยว หรือตามซอกฟันที่จะมีผลให้เกิดโรคฟันผุได้ ได้แก่ อาหารประเภทแป้งและน้ำตาล โดยเฉพาะอาหารที่มีความหนืดหรือเหนียว และสามารถติดฟันได้นาน ๆ เป็นการให้โอกาสแก่เชื้อจุลินทรีย์ในปาก ใช้อาหารเหล่านี้ในการเจริญเติบโต และสร้างเป็นกรดทำลายฟัน นอกจากนี้ร่างกายของเด็กมีความต้องการอาหารประเภท โปรตีน เช่น เนื้อ นม ไข่ และอาหาร ประเภทแร่ธาตุ เช่น ผัก ผลไม้ เพื่อใช้ในการเสริมสร้างความเจริญของร่างกายเป็นพิเศษ โดยอาหารประเภทนี้ แม้บางชนิดจะมีความเหนียว เช่น เนื้อ ผักบางชนิด แต่อาหารเหล่านี้ เชื้อจุลินทรีย์ในปากไม่สามารถใช้ในการเจริญและสร้างกรดให้เกิดโรคฟันผุได้


สำหรับอาหารที่ดีต่อสุขภาพฟัน ได้แก่ นม เพราะอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ไม่ใช่แค่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง แต่ยังช่วยป้องกันเคลือบฟัน ทำหน้าที่ผลิตแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพฟันมาทดแทนส่วนที่ถูกแบคทีเรียทำลายไปอีกด้วย ต่อมาคือ ชีส นอกจากจะมีแคลเซียมสูงแล้ว แบคทีเรียบางชนิดอย่างโปรไบโอติคที่อยู่ในชีสยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียป้องกันฟันผุ นอกจากนี้ ปลา ที่ประกอบด้วยโอเมก้า-3 ในน้ำมันปลา จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคปริทันต์ หรือรำมะนาดได้ ยิ่งกว่านั้นปลาทะเลเขตหนาวอย่างปลาทูน่าและแซลมอนยังเป็นแหล่งของวิตามินดี และไขมันที่ดีต่อร่างกาย

 
สำหรับผลไม้ ที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำไปให้ลูกน้อยรับประทานเพื่อเป็นเมนูอาหารว่าง ทางคลินิกของแนะนำก็คือ แอปเปิ้ล เพราะแอปเปิ้ล มีฉายาว่า ยาสีฟันธรรมชาติ ช่วยลดการสร้างแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ การเคี้ยวแอปเปิ้ลยังช่วยลดความเป็นกรดในช่องปาก และช่วยขจัดสิ่งสกปรก และเศษอาหารที่ตกค้างได้อย่างดี หรือจะเลือกรับประทาน แครนเบอร์รี่ เพราะในแครนเบอร์รี่มีสารที่ช่วยลดแบคทีเรียที่เกาะอยู่ที่ฟัน และสารที่เกิดจากจุลินทรีย์ที่เคลือบร่องฟันและโคนฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคฟันผุและโรคเกี่ยวกับเหงือก หรือจะเลือกธัญพืชอย่างลูกเกด ให้เป็นอาหารว่างสำหรับเด็กๆ ถึงแม้ว่าจะมีรสหวาน แต่ในลูกเกดมีสารบางอย่างที่ช่วยป้องกันแบคทีเรียในช่องปากที่เป็นสาเหตุของฟันผุ และโรคเกี่ยวกับเหงือก


นอกจากนี้ลูกเกดยังไม่มีน้ำตาลซูโครสที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักของโรคในช่องปากอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนหันมาดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน รวมไปถึงสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรที่จะมองข้าม ทางคลินิกเรามีบริการทางด้านทันตกรรมอย่างครบวงจร เพื่อรองรับการเข้ามารับบริการของทุกคน เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี




จัดฟันบางนา: อาหารว่าง ที่ดีต่อสุขภาพช่องปากของเด็กๆ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

หน้า: [1] 2 3 ... 34
Tage : ประกาศขายของฟรี ติด google , ลงประกาศฟรีไม่ต้องสมัคร , ประกาศฟรีไม่มี หมดอายุ , เว็บประกาศฟรีติดอันดับ , ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ , ฝากร้านฟรีโพสฟรี , รวมเว็บลงประกาศฟรี , ลงประกาศฟรี 100 , รวมเว็บลงประกาศฟรี ติด google , ลงประกาศฟรี ติดอันดับ google , ลงประกาศฟรีออนไลน์ , เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ , ลงประกาศฟรี pantip , ลงประกาศฟรี , โพสฟรี โปรโมทฟรี โฆษณาสินค้าฟรี ลงประกาศฟรี โพสฟรี โพสประกาศฟรี ลงประกาศขายฟรี ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี โฆษณาสินค้าฟรี , เว็บลงประกาศขายฟรี ลงประกาศฟรี Post ฟรี ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด เว็บลงประกาศขายฟรี โพสประกาศฟรี ติด google ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายรถฟรี โพสฟรี โฆษณาสินค้าฟรี ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซต์ฟรี ลงโฆษณาฟรี google ลงประกาศสินค้าฟรี ลงโฆษณาฟรี เว็บลงประกาศขายฟรี ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซต์ฟรี ติด google ฝากร้านฟรี ฝากขายฟรี ลงประกาศสินค้าฟรี ลงโฆษณาฟรี ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google