เมื่อผ่านขั้นตอนการเลือกทำเลเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงการเตรียมความพร้อมที่ดินสำหรับลงหลักปักฐาน เพื่อให้เหมาะกับการสร้างบ้าน และในบทความนี้จะยกมาทั้งในส่วนของเจ้าของบ้านที่ต้องอำนวยความสะดวกให้กับบริษัทรับสร้างบ้านหรู ไปจนถึง ส่วนของข้อมูลต่างๆ ที่จะทำให้เจ้าของบ้านทราบขั้นตอนการทำงานของบริษัทรับสร้างบ้านหรู โดยเทคนิคที่ใช้สำหรับเตรียมความพร้อมให้กับที่ดินก่อนปลูกสร้างบ้าน มีอะไรบ้างมาดูกัน
การตรวจสอบสภาพที่ดิน หมายถึงภาพโดยรวม เช่น ชนิดของดิน สภาพแวดล้อม ระดับสูงต่ำ ทิศทางการระบายน้ำ ซึ่งการประเมินเพื่อปรับพื้นที่นั้นแน่นอนว่าเป็นส่วนของบริษัทรับสร้างบ้านหรู หรือผู้คุมงานก่อสร้าง แต่ก็ยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของบ้านโดยตรง เพราะการขุดถม หรือการปรับแก้ที่ดิน เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่ต้องเตรียม ซึ่งจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. ชนิดของดิน
เป็นความแตกต่างโดยธรรมชาติ อย่างภาคกลางดินอ่อนใช้ดินถมทั่วไปได้ หรือภาคอีสานดินแข็งต้องใช้ดินอีกประเภท พื้นที่ติดน้ำก็อีกแบบ ซึ่งต้องเลือกประเภทของดินกับพื้นที่ให้เหมาะสม เช่น
• ดินถมทั่วไป เหมาะกับการถมดินสร้างบ้าน ดินประเภทนี้จะเป็นดินเหนียวสีเทา หรือดำ เหมาะกับพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งราคาจะถูกกว่าดินชนิดอื่นๆ
• ดินดาน หรือ ซีแลค ดินประเภทนี้สามารถบดอัดได้ดี การทรุดตัวน้อย แต่ปลูกต้นไม้ได้ไม่ดี การอมความชื้นน้อย เหมาะสำหรับใช้ในการสร้างโรงงาน โกดัง เสริมฐานรากถนน หรือสิ่งปลูกสร้างที่ต้องการรับน้ำหนักเยอะๆ
• ดินดำ ดินบ่อ สามารถถมดินสร้างบ้านได้ดี และเป็นดินบริสุทธิ์จากบ่อดิน แต่ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับดินถมทั่วไป จึงแนะนำให้ถมในบริเวณพื้นที่ปริมณฑลรอบๆ เขตกรุงเทพ ซึ่งใกล้แหล่งดินและทำให้ราคาค่าถมดินไม่แพง
2. สภาพแวดล้อม
ต้องสำรวจว่าในทำเลนั้นเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม ที่จะส่งผลต่ออนามัย ความปลอดภัย เป็นแหล่งรวมพลังงานด้านลบไหม หรือมีประวัติเคยเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างโรงฆ่าสัตว์ โรงพยาบาล สุสานหรือไม่ เพื่อปรับพื้นที่ให้ถูกสุขลักษณะ หรือพักดินเพื่อเตรียมพื้นที่ก่อนทำการก่อสร้าง คำว่าสภาพแวดล้อมนี้ยังหมายรวมถึงเพื่อนบ้านรอบๆ ประกอบกิจการใดๆ ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราหรือไม่ด้วย เพราะการมีเพื่อนบ้านที่ดี จะช่วยให้การอยู่อาศัยเป็นไปอย่างสงบสุข ไม่มีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น
3. ระดับความสูงของการถม
ต้องเทียบ 2 ระดับ คือเทียบความสูงกับถนนหลัก และเทียบกับพื้นที่ข้างเคียง เพราะโดยมากการถมดินที่มีความสูงเกินมาตรฐานกำหนดมักจะก่อให้เกิดข้อพิพาทจากพื้นที่ต่างเจ้าของพื้นที่ข้างเคียง โดยอาจส่งผลต่อความไม่ปลอดภัยจากดินไหล จากแรงดันของดินที่ยิ่งสูงยิ่งดัน ซึ่งตามกฎหมายหากเจ้าของบ้านมีการขออนุญาตและมีวิศวกรเซ็นรับรองถูกต้องก็สามารถดำเนินการถมตามต้องการได้ แต่หากเทียบกับพื้นที่ต่างเจ้าของพื้นที่ข้างเคียงแล้วเกิดปัญหาเบียดบัง ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ก็ต้องพิจารณาหาจุดที่เหมาะสมที่สุด ดังนั้นการถมดินจึงมักมีคำว่าเหมาะสมมากำกับระดับความสูงเสมอ
4. ทิศทางการระบายน้ำ
หากตรวจสอบพื้นที่แล้วพบว่าเป็นที่ต่ำกว่าพื้นที่โดยรอบ ก็ตีความได้เลยว่าที่ดินของเราจะกลายเป็นพื้นที่ที่รองรับน้ำ รองรับของเสียจากรอบข้างไปโดยปริยาย พร้อมกันนั้นยังสะท้อนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย เช่น ต้องวางท่อหรือระบบการระบายน้ำเพิ่มเติม เพราะการสร้างบ้านที่เป็นแหล่งน้ำมาก่อน หรือที่ดินติดแม่น้ำ จะอันตรายในเรื่องการกัดเซาะ ทรุด พังทลายได้ หรืออาจต้องถมดินทิ้งไว้นานๆ เพื่อทิ้งระยะเวลารอดินเซตตัว เพราะยิ่งถมสูงยิ่งมีโอกาสทรุดตัวง่าย จึงควรทิ้งระยะไว้ 6-12 เดือน
การเตรียมพร้อมที่ดินมีทั้งส่วนที่เป็นงานของบริษัทรับสร้างบ้านหรู และเจ้าของบ้าน ซึ่งก็สามารถช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการเตรียมความพร้อมของพื้นที่ก่อนเข้าก่อสร้างได้ เช่น หากพื้นที่ปลูกสร้างบ้านมีสภาพที่ดินมีความจำเป็นต้องใช้เข็มฐานรากนอกเหนือเข็มตอกขนาดมาตรฐาน ต้องอำนวยความสะดวกขออนุญาต เจรจา ติดป้ายกับพื้นที่โดยรอบถึงการมีรถเข้าออกระหว่างการก่อสร้าง รวมไปถึงขออนุญาตก่อสร้างให้แล้วเสร็จก่อนเพื่อความสะดวกในการใช้น้ำไฟ
เทคนิคเตรียมพร้อมที่ดินก่อนปลูกสร้างบ้านหรู อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://luxuryhomesdesigns.com/