รถยนต์ครอบครัว SUV ยกสูงนิด ๆ คันไม่ใหญ่เกินไปและราคาช่วงระหว่าง 1 ล้านบาทบวก/ลบ กำลังเป็นที่สนใจและได้รับความนิยมมากขึ้น ยิ่งปัจจุบันมีรถประเภทนี้ออกมาจำหน่ายให้เป็นทางเลือกนอกเหนือจากเจ้าตลาดอีกเพียบ ในมุมมองคนที่ต้องตัดสินใจซื้อรถประเภทนี้คงต้องลำบากใจมากขึ้นอีกเท่าตัว และผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่หลายคนเริ่มเปิดใจกว้างหรือ "Move-on" จากค่ายที่คุ้นเคยหันมาสนใจเทคโนโลยีใหม่ ๆ และออปชั่นกันมากขึ้น โดนเฉพาะในช่วงราคาตั้งแต่ 9 แสนไปจนถึง 1 ล้านกว่าบาททั้งจากค่ายญี่ปุ่น จีน ที่มีความน่าสนใจจนต้องลังเลกันเลยครับ มาดูว่ารุ่นไหนน่าสนใจบ้าง โดยเน้นไปที่รุ่นท็อปสุดของแต่ละรุ่นและก่อนจะไปอ่านต่อขอเกริ่นว่าให้เปิดใจกว้างขึ้นและตัดคำว่า "แบรนด์เจ้าตลาดออกไปก่อน" ให้ลองพิจารณาในด้านของเทคโนโนโลยีความ สมรรถนะและความคุ้มค่าของราคาเป็นหลักนะครับ
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ (Honda HR-V) เปิดตัวสด ๆ ร้อนพร้อมกับราคาว้าว (กันหรือเปล่า) กับขุมพลังไฮบริดทุกรุ่นย่อย ไม่มีตัวเครื่องเทอร์โบมาให้เลือกอย่างที่ใครหลายคนคาดเอาไว้ ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร
จุดเด่นคือ Honda sensing ทุกรุ่นย่อย ระบบไฮบริด หลังคาพาโนรามิคแต่เปิดไม่ได้ และฝาปิดกันแดดที่กำลังเป็นกระแสแรงในตอนนี้!!
มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย
E 979,000 บาท
EL 1,079,000 บาท
RS 1,179,000 บาท
ความเห็นส่วนตัว สวยทันสมัย ระบบเทคโนโลยีครบถ้วน ประหยัดด้วยระบบไฮบริด เสียดายที่ยังไม่ได้ทดสอบขับขี่
All New HAVAL JOLION Hybrid ULTRA รถยนต์เอสยูวีพรีเมียมค่ายยักษ์ใหญ่จากจีน เปิดตัวมาบังเอิญเหมือนว่าจะพร้อมชนกับ HR-V e:HEV ภายนอกไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light ระบบ Welcome Light ไฟ Follow Me Home ที่ส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ ไฟท้าย LED ไฟตัดหมอกหลัง LED กระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา Head-up display หน้าจอกลาง Touch Screen Audio Display ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay การเล่น MP3, JOOX ลำโพง 6 ตัว และระบบนำทาง มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ภายใน Two Tone
จุดเด่นคือ เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ครบถ้วนในรุ่นท็อป ขนาดตัวรถใหญ่และกว้างสุดในกลุ่ม B-SUV หลังค่าพาโนรามิคซันรูฟเปิด-ปิดไฟฟ้าสั่งได้ด้วยเสียง
มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยราคาต่ำล้านแม้รุ่นท็อป!!!
TECH 879,000 บาท
PRO 939,000 บาท
ULTRA 999,000 บาท
ความเห็นส่วนตัว หลังทดลองขับ Haval Jolion สวยโดดเด่น กว้างขวางนั่งสบาย เทคโนโลยีเยอะ ขับสนุกด้วยไฮบริด ช่วงล่างนุ่มและหนึบ ระบบความปลอดภัยเพียบไม่แพ้ค่ายเจ้าตลาด ส่วนใครที่คิดว่า Jolion ยังใหญ่ไม่พอก็ต้องรุ่น H6 ที่ราคาขยับเพิ่มอีกนิดเดียว
NEW MG HS PHEV รถยนต์ไฮบริด มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ EDU II -10 SPEEDS ให้พละกำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 120 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตัเมตร สามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนได้ 67 กม. ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออน 6 โมดูล 16.6 Kwh ชาร์จด้วยไฟบ้านด้วย Home charger 4 ชม. และสายชาร์จธรรมดาด้วยปลั๊ก 5.5 ชม. รองรับไฟฟ้าแบบ AC หัวปลั๊ก Type2 และเทคโนโลยี i-Smart กล้องมองรอบคัน 360 องศา หลังคาพาโนรามิกรูฟ ช่วงอิสระ 4 ล้อ และสิ่งที่แตกต่างกันหรือปรับเพิ่มขึ้นมาได้แก่ มาตรวัดแบบจอสี TFT ที่แสดงผลการทำงานระบบไฮบริด และส่วนของเครื่องเสียงที่ให้ลำโพง BOSE ทั้งคัน แต่ถ้างบประหยัดลงมาก็เลือก NEW MG HS เบนซินที่ราคาเริ่มต้น 919,000 บาท
จุดเด่นคือ ระบบ i-smart สั่งการด้วยเสียง ออปชั่นจัดเต็มระบบความปลอดภัยเยอะและเป็นเจ้าแรก ๆ ที่สามารถใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน และในรุ่น HS PHEV ก็ถือว่าเป็นรถเสียบปลั๊คที่ราคาประหยัดที่สุดแล้วในปัจจุบันนี้ครับ
มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย
C 919,000 บาท
D 1,019,000 บาท
X 1,119,000 บาท
PHEV 1,359,000 บาท
ความเห็นส่วนตัว คันใหญ่คุ้มราคา ออปชั่นเยอะ ระบบความปลอดภัยให้มาล้นคัน กว้างนั่งสบาย รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดแรงซะใจดีขับสนุกและในโมหด EV ล้วนวิ่งได้ไกลกว่า 62 กม. จริง และแม้ว่าจะกดคันเร่งสุดเครื่องยนต์ก็ไม่ติดเรียกว่าวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนในโหมดนี้ และช่วงล่างนุ่มหนึบพอสมควร ส่วนรุ่นเบนซินก็ขับสนุกไม่แพ้กัน แต่อาจจะกินจุกว่าเนื่องจากรถตัวใหญ่และน้ำหนักเยอะ
Nissan Kicks รถยนต์คอมแพ็คเอสยูวี รถที่มีระบบดีมาก (แต่โลกเกิอบลืม) จากเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ (e-POWER) ที่ให้ความเร้าใจผ่านพละกำลังและอัตราเร่งในทันทีเสมือนรถยนต์ไฟฟ้า 100% พร้อมคันเร่งอัจฉริยะ วัน-เพดัล (One-Pedal) โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ V-motion ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ทรงบูมเมอแรง การออกแบบแนวเส้นหลังคาแบบลอยตัว (floating roof line) และภายในใช้ลายเส้นของปีกเครื่องร่อน (gliding wing) และ Nissan Intelligent Mobility ติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็ก ๆ รหัส HR12DE ขนาดความจุ 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิด 103 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ระบบขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 ที่ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร และในช่วงนี้แคมเปญเด็ด ๆ เพียบ
จุดเด่นคือ อัตราเร่งดีเหมือนรถไฟฟ้าจริง ๆ ประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องคอยเสียบไฟชาร์จ วิ่งได้ตราบที่มีปั้มน้ำมันให้เติม เทคโนโลยีความปลอดภัยไฮเทคไม่แพ้รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่เปิดตัวในปัจจุบัน
มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย
S 889,000 บาท
E 949,000 บาท
V 999,000 บาท
VL 1,049,000 บาท
ความเห็นส่วนตัว เป็นรถที่ให้สมรรถนะเทียบเท่ารถขนาด 2.4 ลิตร แรงขับสนุก แต่ประหยัดทั้งใแง่ของน้ำมันและการบำรุงรักษาเช็คระยะที่เทียบเคียงกับอีโค่คาร์ ขนาดกระทัดรัดไม่ใหญ่เกินไปคล่องตัว แต่ระบบช่วงล่างที่ยังไม่น่าไว้ใจนัก นุ่มและโยนมากเกกินไปเมื่อเทียบกับความแรงระดับนี้ ระบบเบรกแข็งเท้าไปหน่อย ต้องใช้น้ำหนักกดลงเยอะ และความเร็วปลายที่ล็อคไว้ที่ประมาณ 160 กม./ชม.
โคโรลล่า ครอส ใหม่ (Toyota Corolla Cross) เปิดตัวก่อนใครมาพร้อมรูปลักษณ์ "หน้าบึ้ง" และระบบเบรกมือแบบ "เท้าเหยียบ" แต่เน้นความปลอดภัยกับ Toyota Safty sence และความประหยัดด้วยเครื่องยนต์ ระบบไฮบริดเจเนเรชันที่ 4 (4th Generation Hybrid) 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร Atkinson Cycle พร้อมระบบ VVT-i ประหยัดเชื้อเพลิงและรักษาสิ่งแวดล้อม ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock ชุดระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลต่อเนื่อง PCU (Power Control Unit) พัฒนาให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ช่วยให้ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ไฮบริด Ni-MH (Nickel-Metal Hydride) แบตเตอรี่ใหม่มีขนาดเล็กลง เก็บประจุไฟฟ้าได้เร็วขึ้น และสามารถจ่ายไฟให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพัฒนาระบบระบายความร้อนใหม่ ทำให้มีความทนทานและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น อัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.3 กม./ลิตร และรุ่นเริ่มต้นเบนซิน 1.8 ลิตร จากอัลติส
จุดเด่นคือ ความเป็นโตโบต้าที่เน้นเรื่องทนทาน ดูแลง่ายไม่จุกจิก ช่วงล่างนุ่มนวล สมรรถนะเครื่องยนต์ระดับกลาง ๆ แต่ให้ความประหยัดน่าประทับใจ ฟังก์ชั่นโดยรวมนับว่าดี หากรับได้ในเรื่องอุปกรณ์บางชิ้นที่ถูกตัดทอนออกไปเล็กน้อย ๆ ก็คุ้มค่าครับ
มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย
1.8 Sport 989,000 บาท
Hybrid Smart 1,019,000 บาท
Hybrid Premium 1,089,000 บาท
Hybrid Premium Safty 1,199,000 บาท
ความเห็นส่วนตัว เป้นรถที่ขับแล้วสบายใจ สมรรถนะกลาง ๆ ขับขี่ง่ายไม่แรงแต่ก็ไม่อืดจนเกินไป ให้ความประหยัดเกินตัว ดูแลง่าย ระบบช่วงล่างสำหรับผมยังไม่ค่อยหนึบเท่าไหร่นักอาจเน้นไปทางความนุ่มนวลใช้งานในเมืองเป็นหลักครับ
ALL-NEW MAZDA CX-30 รถครอสโอเวอร์เอสยูวี โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี SKYACTIV-Vehicle Architecture ระบบระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) ที่ได้รับการพัฒนาให้ลำแสงละเอียดยิ่งขึ้น กล้อง 360 องศา รอบทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) ช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance เป็นต้น เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร หัวฉีดตรงแรงและประหยัดน้ำมันมีอัตราส่วนกำลังอัดสูงถึง 13.0:1 ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์ 6 จังหวะ ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร*
จุดเด่นคือ รูปทรงที่สปอร์ตทันสมัย เทคโนโลยีหลายอย่างนับว่าล้ำหน้ากว่าหลายรุ่นในพิกัดเดียวกัน ระบบความปลอดภัยเยอะ ขับสนุกสมรรถนะเครื่องยนต์และช่วงล่างดีมาก ๆ รุ่นหนึ่ง แต่ภายในนั้นแคบไปหน่อยหากเทียบกับรถระดับเดียวกัน
มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยและ 1 รุ่นพิเศษ 100th
CX-30 C 989,000 บาท
CX-30 S 1,099,000 บาท
CX-30 SP 1,199,000 บาท
CX-30 100th 1,228,000 บาท
ความเห็นส่วนตัว มาสด้านับเป็นรถที่ให้สมรรถนะและเทคโนโลยีที่ดีมาก ๆ รุ่นหนึ่งเลย และยอมรับว่าระบบช่วงล่างการเกาะถนนแบบสปอร์ตนั้นทำได้ดีน่าจะเป็นรถที่ขับสนุกที่สุดในรถญี่ปุ่นเซกเมนต์เดียวกัน เป็นรอง Subaru XV เท่านั้น แต่เรื่องที่ยังคาใจข้างในลึก ๆ นั้นคือ บริการหลังการขายและราคาซ่อมบำรุงที่แฟน ๆ มาสด้าเองหลายคนยังต้องกลั่นใจเพื่อให้ได้ใช้ที่ฟิวลิ่งดีต่อไป ด้วยเทคโนโลยี Skyactiv ที่มีชิ้นส่วนมากมายย่อมต้องมีมีการดูแลมากเป็นพิเศษ
ALL-NEW SUBARU XV เจ้าเดียวในตอนนี้ที่เป็น AWD และค่าตัวไม่สูงเกินเอื้อมมาพร้อมตัวรถความยาวโดยรวม 4,465 มม. เพิ่มขึ้น 15 มม. ความกว้างโดยรวม 1,800 มม. เพิ่มขึ้น 20 มม. ความสูงโดยรวม 1,615 มม. ความสูงจากพื้นถึงตัวรถมากถึง 220 มม. ติดตั้งเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ (BOXER) บล็อคใหม่ล่าสุด FB20 จ่ายเชื้อเพลิงระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (ไดเรคอินเจคชัน) ขนาด 2.0 ลิตร กำลังอัดเพิ่มขึ้น 12.5:1 (เดิม 10.5:1) กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. ที่ 6,200 รตน. แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รตน. ให้กำลังเต็มสมรรถนะด้วยระบบควบคุมวาล์วแบบแอคทีฟ (AVCS: ACTIVE VALVE CONTROL SYSTEM) ทั้งไอดีและไอเสีย เกียร์ CVT ใหม่ แบบ 7 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตรตลอดเวลา SYMMETRICAL AWD เพิ่มระบบ X-MODE แต่ด้วยความที่ออกมานานจึงทำให้ใส่ระบบความปลอดภัยสุดล้ำอย่าง eyesight ไม่ทัน แต่กลับไปอยู่ใน Forester และ Outback แทน
จุดเด่นคือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เจ้าเดียวในระดับเดียกกัน เกาะถนน อัตราเร่งไหลลื่นดีแม้จะขับ 4 ล้อตลอดเวลา และยังประหยัดเกินคาด ภายในกว้างขวาง เบาะนั่งสบาย และลุยในแบบออฟโร้ดได้เกือบจะเท่ารถประเภท SUV คันใหญ่ได้ในระดับหนึ่งครับ
มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย
2.0 i 1,159,000 บาท
2.0 iP 1,259,000 บาท
2.0 GT Edition 1,358,000 บาท
ความเห็นส่วตัว XV นับเป็นรุ่นเดียวที่ขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงทำให้การขับขี่ในทุกสภาพถนนให้ความมั่นใจมากที่สุด เกาะเป็นตุ๊กแก การควบคุมพวงมาลัยกระชับแม่นยำและคล่องตัว แต่อัตราเร่งยังไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเท่าไหร่ เนืองจากต้องออกแรงเฉลี่ยในการขับเคลื่อนสู่ล้อทั้ง 4 แต่เมื่อลอยลำไปแล้วก็ให้อัตราเร่งที่สนุกไม่แพ้ใครเลยครับ
สรุปแล้วรถยนต์ SUV แต่ละรุ่นย่อมมีความแตกต่างกันทั้งเรื่องคาแร็คเตอร์ ออปชั่น สมรรถนะและดีไซน์ ขึ้นกับความชอบและจุดประสงค์ของการนำไปใช้งาน ไม่ว่าเรื่องความกว้างห้องโดยสาร ความสบายของเบาะนั่ง ระบบความความบันเทิงและความปลอดภัยต่าง ๆ นับเป็นการตัดสินใจของผู้เลือกซื้อให้ตรงกับความต้องการให้มากที่สุด แม้ว่าในบางครั้งเราอาจจะคิดว่า "เราคือผู้เลือกซื้อรถรุ่นนั้น" แต่ความเป็นจริงอาจกลับกับกลายเป็น "รถรุ่นนั้นอาจเป็นผู้เลือกเจ้าของ" ก็เป็นได้ครับ
motor expo 2030: ศึกรถอเนกประสงค์ SUV ดุเดือดราคาพอกันจะเลือกรุ่นไหนดี? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorexpo/
หัวข้อ: motor expo 2030: ศึกรถอเนกประสงค์ SUV ดุเดือดราคาพอกันจะเลือกรุ่นไหนดี? (อ่าน 128 ครั้ง)